ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับขึ้นขณะบอนด์ยิลด์ดิ่งลง

ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับขึ้นขณะบอนด์ยิลด์ดิ่งลง

นิวยอร์ค–26 เม.ย.–รอยเตอร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 8.99 ดอลลาร์ สู่ 1,997.87 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการดิ่งลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และปัจจัยดังกล่าวก็ช่วยบดบังแรงกดดันที่ราคาทองได้รับจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีดิ่งลงจาก 3.515% ในช่วงท้ายวันจันทร์ สู่ 3.398% ในช่วงท้ายวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยการดิ่งลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ส่งผลบวกต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 101.81 ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยแข็งค่าขึ้นจาก 101.25 ในช่วงท้ายวันจันทร์ และการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

• ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดปรับขึ้น 0.3% สู่ 2,004.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดร่วงลง 0.125 ดอลลาร์ สู่ 25.045 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 4.07 ดอลลาร์ สู่ 1,086.07 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 51.54 ดอลลาร์ หรือ 3.36% สู่ 1,483.78 ดอลลาร์/ออนซ์

• นักลงทุนรอดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกของสหรัฐที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันพฤหัสบดี และรอดูดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานของสหรัฐที่จะได้รับการรายงานออกมาในวันศุกร์ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มักใช้ดัชนี PCE พื้นฐานเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อ และนักลงทุนมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการกำหนดนโยบายของเฟด ทั้งนี้ นายเอฟเวอเรทท์ มิลแมน หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของบริษัทเกนส์วิลล์ คอยน์กล่าวว่า “เฟดจะพยายามปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ แต่นั่นจะเป็นอุปสรรคขัดขวางเศรษฐกิจไม่ให้เติบโตอย่างรวดเร็ว” และเขากล่าวเสริมว่า “ไม่ว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม ผลการตัดสินใจของเฟดก็จะก่อให้เกิดความตึงเครียด และความไม่แน่นอนแบบนี้ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาทอง”

• นักลงทุนกังวลกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากสำนักงาน The Conference Board รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐดิ่งลงจาก 104.0 ในเดือนมี.ค. สู่ 101.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2022 หรือจุดต่ำสุดรอบ 9 เดือน ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตรูดลงจาก -5 ในเดือนมี.ค. สู่ -10 ในเดือนเม.ย. และถือเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันที่ภาคการผลิตในเขตนี้หดตัวลง ทั้งนี้ นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนหน้า โดยนักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาส 20.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และมีโอกาส 79.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค.

• เจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐกล่าวเตือนว่า ถ้าหากสภาคองเกรสประสบความล้มเหลวในการปรับขึ้นเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ ปัจจัยดังกล่าวก็จะก่อให้เกิด “หายนะทางเศรษฐกิจ” ซึ่งจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นในช่วงหลายปีข้างหน้า

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด