ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ตัวเลขจ้างงานเอกชนแข็งแกร่งกดทองปรับลง

ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ตัวเลขจ้างงานเอกชนแข็งแกร่งกดทองปรับลง

นิวยอร์ค–7 ก.ค.–รอยเตอร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับลง 6.52 ดอลลาร์ สู่ 1,910.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากดิ่งลงแตะ 1,902.45 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ ในขณะที่มีการรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่แข็งแกร่งเกินคาดในสหรัฐ และรายานตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยปัจจัยนี้ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และส่งผลลบต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย ทั้งนี้ บริษัท ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐพุ่งขึ้น 497,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2022 และอยู่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 228,000 ตำแหน่งเป็นอย่างมาก หลังจากการจ้างงานภาคเอกชนปรับขึ้น 267,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับขึ้น 12,000 ราย สู่ 248,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ก.ค. แต่ยอดผู้ได้รับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องดิ่งลง 13,000 ราย สู่จุดต่ำสุดรอบ 4 เดือนที่ 1.720 ล้านรายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย.

• ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดร่วงลง 0.6% สู่ 1,915.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 0.365 ดอลลาร์ หรือ 1.58% สู่ 22.740 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดรูดลง 14.03 ดอลลาร์ หรือ 1.53% สู่ 901.67 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดดิ่งลง 18.49 ดอลลาร์ หรือ 1.47% สู่ 1,241.61 ดอลลาร์/ออนซ์

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปี ซึ่งมักจะปรับตัวตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้นแตะ 5.120% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2007 หรือจุดสูงสุดรอบ 16 ปี ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นจาก 3.945% ในช่วงท้ายวันพุธ สู่ 4.083% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. หรือจุดสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน ทั้งนี้ ลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า เธอมีความกังวลเป็นอย่างมากว่า “อัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่ระดับเป้าหมายได้อย่างยั่งยืนและในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่” และเธอกล่าวเสริมว่า มีเหตุผลสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ถึงแม้เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

• นักลงทุนคาดว่า มีโอกาส 92% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.ด้วย โดยนักลงทุนคาดการณ์ในวันพฤหัสบดีว่ามีโอกาส 47% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย. โดยปรับขึ้นจากโอกาสราว 36% ที่เคยคาดไว้ในวันพุธ

• นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐอาจเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนอัตราการว่างงานในสหรัฐอาจปรับลงสู่ 3.6% ในเดือนมิ.ย. จาก 3.7% ในเดือนพ.ค.

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด